วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2550

31.the battle of hogwarts

31 ที่ฮอกวอตส์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลและภาคีนกฟีนิกซ์ยืนอยู่ที่แท่นอาจารย์ใหญ่ และสั่งให้พรีเฟคของแต่ละบ้านอพยพนักเรียนของบ้านตัวเองออกไปจากฮอกวอตส์ทันทีภายใต้การดูแลของมาดามพอมฟรีย์และฟลินซ์ เออร์นี่ถามว่า แล้วถ้าต้องการจะอยู่และต่อสู้ต้องทำอย่างไร มักกอนนากัลอนุญาตให้อยู่ได้กรณีที่อายุถึงเกณฑ์ มีนักเรียนถามถึงเสนป มักกอนนากัลบอกว่าเสนปจากไป โดยไม่ได้บอกใคร ระหว่างนั้นแฮรี่พยายามมองหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ แต่ยังหาไม่เจอ มักกอนนากัลพยายามเร่งให้นักเรียนรีบออกไป แต่คำพูดของศ.มักกอนนากัลก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงปริศนาเสียงหนึ่ง เสียงสูง เยือกเย็น และชัดเจน
...ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนพร้อมจะสู้ แต่ความพยายามของพวกเธอนั้นไร้ประโยชน์ ฉันนับถืออาจารย์ในฮอกวอตส์
...ส่งแฮรี่ พอตเตอร์มาแล้วทุกคนจะปลอดภัย
...พวกเธอมีเวลาถึงเที่ยงคืนเท่านั้น...

หลังโวลเดอร์มอร์ดพูดจบ แพนซี่ พาร์กินสัน กรีดร้องให้ทุกคนจับแฮรี่ส่งไป แต่เด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ฮัฟเฟิลพัพ และเรเวนคลอ ยืนขึ้นปกป้องแฮรี่ มักกอนนากัลสั่งให้แพนซี่ออกไป และตามด้วยพวกสไลธีริน มักกอนนากัลสั่งให้บ้านอื่นๆออกไปด้วย แต่เด็กปีสูงๆบ้านเรเวนคลอ เด็กฮัฟเฟิลพัพหลายคน และกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กกริฟฟินดอร์ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้

แฮรี่พยายามถามหาเฮอร์กับรอน นายวิสลีย์เริ่มกังวลถึงสองคนนั้น แต่ความสนใจก็ถูกดึงไป เมื่อคิงสลีย์ขึ้นมาประกาศว่าเหลือเวลาครึ่งชั่วโมง และแบ่งนักเรียนสามกลุ่มให้ไปกับ มักกอนนากัล สเปราต์ และฟลิตวิก ไปประจำการที่สามหอคอยที่สูงที่สุด ส่วนคิงสลีย์ อาเธอร์ ลูปิน เฟรด จอร์จ จะไปที่สนาม มักกอนนากัลป์เตือนแฮรี่ให้รีบหาของที่แฮรี่ตั้งใจจะหา แฮรี่พยายามมุ่งคิดถึงฮอร์ครักซ์ แต่ก็อดคิดถึงรอนและเฮอร์ไม่ได้เพราะโดยปกติแล้วสองคนนั้นจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

แฮรี่เดาว่า โวลจะต้องคิดว่าแฮรี่จะต้องไปที่หอคอยของบ้านเรเวนคลอ เพราะโวลให้อะเลคโตมาเฝ้าไว้ ซึ่งมีเหตุผลที่เป็นไปได้ข้อเดียวคือ โวลกลัวว่าแฮรี่จะรู้ถึงฮอร์ครักที่มีความเชื่อมโยงกับเรเวนคลอ
แฮรี่หลับตาและนึกถึงของที่หายไปของบ้านเรเวนคลอ และนึกถึงมงกุฎที่หายสาบสูญไป เป็นไปได้หรือไม่ที่มงกุฏจะเป็นฮอร์ครักซ์
แล้วแฮรี่ก็นึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ เลยไปถามนิคถึงผีประจำบ้านของเรเวนคลอ ซึ่งก็คือ the grey lady เมื่อแฮรี่เห็นก็จำได้ว่า เคยเจอ the grey lady เสมอๆที่ทางเดินในปราสาท เพียงแต่ไม่เคยพูดด้วย แฮรี่ถามถึงมงกุฎที่สาบสูญ แต่ the grey lady ปฏิเสธว่าคงช่วยอะไรแฮรี่ไม่ได้ มีนักเรียนมากมายหลายต่อหลายรุ่นตามหามันมาตลอด แฮรี่ขอร้องและบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโวลเดอร์มอร์ต

The grey lady บอกว่าเธอคือลูกสาวของเรเวนคลอ ผู้ก่อตั้งบ้านเรเวนคลอ และเธอเป็นคนขโมยมงกุฎนั้นจากแม่ของเธอเพราะคิดว่าจะทำให้เก่งกว่าแม่ และหนีไป
เรเวนคลอไม่ยอมรับว่ามงกุฎหายไป แต่แสร้งทำว่าอยู่กับตัวเองมาตลอด ปิงบังแม้กระทั่งผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์คนอื่นๆ
ต่อมาเรเวนคลอป่วย และอยากจะพบลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย จึงส่งผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเชื่อว่าจะตั้งใจตามหา เพราะชายคนนี้หลงรักลูกสาวเธอมานาน ผู้ชายคนนั้นคือ บารอนเลือด !!!
เมื่อตามมาจนพบ แต่เธอปฏิเสธที่จะกลับไป ด้วยความโมโหชั่ววูบ บารอนเลยแทงเธอตาย แต่เมื่อได้สติเขาก็เสียใจ และใช้มีดนั้นฆ่าตัวตายตาม ส่วนมงกุฎนั้นถูกซ่อนอยู่ในป่าที่เธอตาย ที่แอลเบเนีย
แฮรี่ถามว่าเธอได้บอกเรื่องนี้ใครบ้างหรือเปล่า เธอจำได้ว่าเคยบอกเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แฮรี่เดาได้ว่าคือทอม ริดเดิ้ล ซึ่งน่าจะไปค้นหาตั้งแต่จบจากเรียน และป่าในแอลเบเนียนี้เองที่ริดเดิลซ่อนตัวอยู่ในช่วงสิบปีที่สูญเสีญอำนาจ แต่เวลานั้น มงกุฎที่กลายเป็นฮอร์ครักซ์ไม่น่าจะอยู่ที่ป่าอีกต่อไปแล้ว แต่กลับสู่บ้านของมัน ซึ่งก็คือ ฮอกวอตส์!! ...และน่าจะมีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น คือวันที่โวลกลับมาสมัครเป็นอาจารย์สอนป้องกันตัวจากศาสตร์มืด มงกุฏจึงน่าจะถูกซ่อนแถวๆห้องทำงานของดัมบิลดอร์

เหลือเวลาเพียงห้านาทีก่อนถึงเที่ยงคืน แฮรี่มั่นใจว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าฮอครักซ์อันสุดท้ายคืออะไร แต่ปัญหาคือ มันอยู่ที่ไหนกันเล่า ในเมื่อมันไม่เคยถูกค้นพบแม้ว่านักเรียนหลายรุ่นจะค้นหามาตลอด แสดงว่ามันไม่ได้ซ่อนอยู่ในหอคอยของเรเวนคลอ แฮรี่เดินคิดจนมาเจอแฮกริด และกอร์ป ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยงคืน แฮรี่เห็นแสงจากด้านนอก เป็นสัญญาณที่บอกว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว แฮกริดเล่าว่าได้ยินเสียงโวลตอนอยู่ในถ้ำ เลยมาช่วย และถามถึงรอนกับเฮอร์
แฮรี่ตอบว่าไม่รู้ และชวนแฮกริดออกไปค้นหาแถวทางเดินห้องพักอาจารย์ แฮรี่มองเห็นรูปปั้นสัตว์ประหลาดหน้าห้องอาจารย์แล้วนึกถึงรูปปั้นเรเวนคลอที่บ้านเลิฟกูด และที่หอคอย และในที่สุดก็นึกออกว่ามงกุฎของเรเวนคลออยู่ที่ไหน
แฮรี่วิ่งต่อไป ผ่านเฟรด ดีน เนวิลล์ (ที่กำลังไปช่วยเมนเดรก) และคนอื่นๆ และเจอกับรอนและเฮอร์ เฮอร์เล่าว่าทั้งสองคนเข้าไปในห้องแห่งความลับ โดนรอนเคยฟังแฮรี่และเลียนเสียงพาเซลเมาท์ได้ ทั้งสองคนใช้เขี้ยวของบาสิลิสทำลายถ้วยของฮัฟเฟิลพัพที่เป็นฮอครักซ์ไปแล้ว

แฮรี่บอกว่าตนเองรู้แล้วว่าฮอร์ครักสุดท้ายอยูที่ไหน เป็นที่ๆนักเรียนใช้ซ่อนของมานานนับศตวรรษ แฮรี่รู้เพราะเคยเอาหนังสือปรุงยาไปซ่อนที่นั่น
ที่ทางเดินหน้าห้องต้องประสงค์ แฮรี่ เฮอร์ รอน เจอ จินนี่ ทองก์ และย่าของเนวิลล์ แฮรี่อยากให้จินนี่กลับไป แต่ขณะที่เถียงกันรอนก็นึกได้ว่าควรไปปล่อยเอลฟ์ประจำบ้านให้หนีไปด้วย พอได้ยินแบบนี้เฮอร์เลยวิ่งเข้าไปจูบรอน (ที่ปากซะด้วย โอ้ว)
แฮรี่เตือนแบบเกรงใจว่าเราต้องหาฮอครักซ์กันต่อ และท่องในใจว่าต้องการห้องที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกซ่อนอยู่ ประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
แฮรี่ และหาเจอรูปปั้นที่สวมมงกุฏเก่าๆหมองๆที่แฮรี่นำมาทำสัญลักษณ์เพื่อซ่อนหนังสือปรุงยา แฮรี่หยิบมงกุฎขึ้นมา แต่มีคนสามคนปรากฏตัวข้างหลัง คือ แครบ กอยน์ และมัลฟอย ซึ่งบอกว่าจะมาจับแฮรี่เพราะต้องการรางวัลจากโวล รอนได้ยินเสียงจึงเข้ามาตามแฮรี่ แครปอยากเสกคาถาแต่มัลฟอยห้ามเพราะกลัวทำมงกุฎพัง มัลฟอยเดาว่ามงกุฎน่าจะสำคัญเพราะแฮรี่มาเอา แต่แครปบอกว่า มัลฟอยไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งคนอื่นอีกแล้ว เฮอร์โผล่ออกมาพอดี แครปเลยเสกอะวาดา เคดาฟรา ใส่เพราะเป็นเลือดสีโคลน แต่แฮรี่เสกคาถางุนงงใส่แครป แครปเลยเซไปชนมัลฟอยและทำไม้กายสิทธิ์หล่น ทั้งหมดต่อสู้กัน แครปเสกคำสาปที่แฮรี่ไม่รู้จักมาก่อน เกิดไฟไหม้ กอยน์หมดสติ แฮรี่ไปช่วยมัลฟอยเอากอยน์ออกมา

แฮรี่สังเกตว่าของที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มนตร์ถูกไฟนี้เผาไปได้ แฮรี่พามัลฟอยออกมาเจอกอยน์ รอน เฮอร์ และรู้ว่าแครปตายแล้ว มงกุฎในมือแฮรี่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เฮอร์บอกว่าไฟนี้คือ fiendfyre สามารถทำลายฮอครักซ์ได้ เท่ากับว่าตอนนี้ภารกิจของพวกเขาเหลือเพียงงูนากินี...

แต่แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนและต่อสู้ ผู้เสพความตายบุกเข้าฮอกวอตส์ได้แล้ว เฟรดและเพอร์ซี่กำลังต่อสู้ ทั้งสามคนเข้าไปช่วย ผู้เสพความตายคนนึงทำผ้าคลุมหลุดออก และปรากฏว่าเป็น รมต.กระทรวงเวทย์มนตร์ เพอร์ซี่เลยบอกว่างั้นลาออกเลยละกัน เฟรดเหมือนจะดีใจและแปลกใจหน่อยๆที่เพอร์ซี่ยิงมุขตลกๆกะเค้าด้วย เฟรดกำลังแซวเพอร์ซี่ก่อนเสียงจะขาดหายไป

No no no! someone was shouting. No! Fred! No!
And Percy was shaking his brother, and Ron was kneeling beside them, and Fred's eyes stared without seeing, the ghost of his last laugh still etched upon his face.

เฮอร์และแฮรี่ได้แต่เพียงยืนมอง ทั้งสองคนเศร้ามากๆ แฮรี่รู้สึกเหมือนว่าโลกนี้มืดลงไป และกลัว...อย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในชีวิต