วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2550

25. shell cottage

ยังอยู่ที่กระท่อมเปลือก ห อ ย ริมหาดของบิลกับเฟลอร์ แฮร์รี่ซึ่งบอกว่าจะไม่ตามไปชิง Elder Wand กลับรู้สึกสับสนและลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่แฮร์รี่เลือกที่จะไม่ลงมือทำอะไรเลย ยิ่งคิดถึงหลุม ศ พ ดัมเบิลดอร์ยิ่งทำให้แฮร์รี่รู้สึกแย่ เหมือนกับว่าดัมเบิลดอร์ทิ้งความนัยอะไรบางอย่างเอาไว้ให้แฮร์รี่ค้นหาคำตอบแล้ว แต่ตัวเขาเองมองข้าม มั น ไป ทำให้เขาต้องคอยเหลียวหลังหันกลับมามองอย่างลังเลตลอดเวลาว่าทางที่เลือกเดินมานี้ถูกต้องแล้วหรือ

แล้วแฮร์รี่ก็ พ า ล นึกโกรธดัมเบิลดอร์ที่ไม่อธิบายอะไรๆ ให้ชัดเจนไว้ก่อน ต า ย บ้างเลย รอนพยายามเปิดประเด็นว่าดัมเบิลดอร์ ต า ย ไปแล้วจริงๆ รึเปล่าใหม่ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าค้านตกเต็มที่ พอดีเฟลอร์เดินเข้ามาขัดจังหวะ บอกแฮร์รี่ว่ากริปฮุคอยากคุยกับแฮร์รี่เป็นการส่วนตัวในห้อง ด้วยท่าทีที่ไม่ปิดบังเลยว่าเธอไม่ชอบพวกกอบลินอย่างยิ่ง


ทั้งสามคุยกันว่าจะเชื่อเรื่องที่กริปฮุคบอกว่าดาบนั้นเป็นของข โ มย มาได้รึเปล่า เฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่แน่ใจ เพราะประวัติศาสตร์ของพ่อมดย่อมไม่เขียนเรื่องแย่ๆ ของพ่อมดไว้ เธอเสริมว่าพวกกอบลินเองก็มีเหตุผลที่ดีที่จะ เ ก ลี ย ด ชิ ง ชั ง พวกพ่อมด เพราะในอดีตพวกพ่อมด ก ด ขี่ ข่ ม เ ห ง กอบลินไว้เยอะมาก

รอนเสนอแผนว่าจะเอาดาบปลอมให้กริปฮุคไป ยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ที ไ ล่ ทันทีว่าพวกพ่อมดก็คิดกันแบบนี้แหละพวกกอบลินถึงไม่ชอบหน้าเอา เงียบไปอีกพักโดยไม่มีใครคิดออกว่าจะเสนอให้อะไรที่มีค่าพอๆ กับดาบที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการทำลายฮอร์ครักซ์เหมือนกันดี

ในที่สุดแฮร์รี่ก็ตกลงใจว่าเขาจะยอมให้ดาบกริฟฟินดอร์ไปหลังจากที่กริปฮุคช่วยให้พวกเขาบุกเข้าไปได้สำเร็จแล้ว แต่เขาจะไม่บอกกริปฮุคว่าจะให้ดาบ "เมื่อไหร่" เฮอร์ไมโอนี่ไม่ชอบไอเดียนี้ แต่ไม่มีใครคิดอะไรที่ดีกว่านี้ได้ ในที่สุดแฮร์รี่กับกริปฮุคก็จับมือทำข้อตกลงกันเรียบร้อย ท่ามกลางความชื่นมื่นของกริปฮุคแต่เพียงผู้เดียว

จากนั้นกริปฮุคกับทั้งสามก็หมกตัวกันวางแผนบุก ป ล้ น กริงก็อตส์ชนิดที่แทบไม่โผล่หัวออกมาดูโลกนอกจากเวลาอาหาร กริปฮุคออกตัวว่าเคยเข้าไปในห้องเซฟของตระกูลเลสแตรงค์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นตอนที่เอาดาบปลอมไปเก็บไว้ ห้องนั้นเป็นหนึ่งในห้องเซฟที่เก่าแก่ที่สุด อยู่ลึกที่สุด ได้รับการคุ้มกันอย่างดีที่สุด เหมือนอย่างห้องของตระกูลพ่อมดเก่าแก่ทั้งหลาย ซึ่งนี่เป็นอุปสรรคต่อแผนบุกของพวกเขา และอุปสรรคอีกอย่างคือน้ำยาสรรพรสในสต็อกเหลือเพียงแค่สำหรับ 1 คนเท่านั้น

เฮอร์ไมโอนี่แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากพิจารณาแผนที่ทางเดินที่กริปฮุควาดให้ดูแล้วแฮร์รี่ก็บอกว่ามีเท่านั้นก็เพียงพอ แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกไม่ชอบนิสัย ห ย า บ ค า ย ไร้ความปรานีต่อผู้อื่น (โดยเฉพาะชนเผ่าที่ด้อยกว่า) ของกริปฮุค

แต่ยังไงก็ต้องทนจนกว่าแผนจะสำเร็จ และจากความที่เฟลอร์ก็ไม่ชอบ ประจวบกับเรื่องต่างๆ มากมาย วันหนึ่งแฮร์รี่จึงเอ่ยขอโทษกับเฟลอร์ที่ทำให้ต้องลำบากขณะที่ทั้งสองอยู่ในครัว เฟลอร์บอกไม่เป็นไร เพราะยังไงแฮร์รี่ก็คือคนที่ช่วยชีวิตน้องสาวของเธอไว้ แล้วเปลี่ยนหัวเรื่องคุยว่าเดี๋ยวเย็นนี้คุณโอลิแวนเดอร์ก็จะไปอยู่บ้านเมอเรียลแทนแล้ว อะไรๆ ก็คงจะยุ่งน้อยลง แฮร์รี่บอกว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะไปด้วยเหมือนกัน เฟลอร์กับบิลจะได้ไม่ลำบาก เฟลอร์ได้ยินก็บอกแฮร์รี่ว่าห้ามไปไหนนะ อยู่ที่นี่แหละจะได้ปลอดภัย เป็นคำพูดที่แฮร์รี่รู้สึกว่าเหมือนแม่ของรอนจริงๆ พอดีจินนี่กับดีนเปียกฝนโชกกลับเข้าบ้านมาพอดี แฮร์รี่จึงฉวยโอกาสหลบลี้หนีหายไปก่อนจะโดนเฟลอร์ซักถามอะไรอีก

คืนนั้นบิลพาคุณโอลิแวนเดอร์ไปส่งบ้านเมอเรียล เฟลอร์จึงฝากเทียร่าประดับเพชรกับมูนสโตนที่ยืมมาใช้ในงานแต่งไปคืนป้าเมอเรียลของครอบครัววีสลีย์ด้วย กริปฮุคเห็นเทียร่านั้นก็ทักขึ้นว่าเป็นของที่ทำโดยกอบลินสินะ บิลตัดบทว่าและเป็นของที่พ่อมดจ่ายเงินให้แล้ว จากนั้นบิลกับโอลิแวนเดอร์ก็ฝ่าลมแรงออกจากบ้านไป คนอื่นๆ ก็ตั้งโต๊ะกินมื้อเย็นกัน จนบิลกลับมา และบอกว่าทุกคนที่นั่นฝากความคิดถึงมาให้ด้วย

ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่บนโต๊ะอาหาร ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตู ปรากฏว่าเป็นลูปินโผล่เข้ามาบอกว่าท็องส์คลอดลูกแล้ว เป็นเด็กผู้ชายชื่อเท็ด ได้ยินอย่างนั้นทุกคนจึงเข้ามาแสดงความยินดีกับลูปิน (ยกเว้นกริปฮุค) ลูปินบอกว่าตนกับท็องส์เห็นพ้องต้องกันว่าจะให้แฮร์รี่เป็นพ่อทูนหัวของลูกชาย แฮร์รี่ได้ยินอย่างนั้นก็รับปากไปอย่างงงๆ เฟลอร์ถามว่าเท็ดหน้าตาเหมือนใคร ลูปินบอกว่าคงเหมือนท็องส์ เพราะสีผมของเท็ดเปลี่ยนได้ด้วย

หลังจากดื่มไวน์ฉลองไปหลายแก้วลูปินก็ขอตัวกลับ แต่คนที่เหลือในบ้านยังคงฉลองข่าวดีนี้อย่างรื่นเริงกันต่อไป บิลกับแฮร์รี่ช่วยกันเก็บโต๊ะ ขณะที่อยู่ในครัว บิลเปิดประเด็นเรื่องที่แฮร์รี่กำลังวางแผนอะไรอยู่กับกริปฮุค บิลเอ่ยขึ้นว่าตนทำงานกับกอบลินมานานจนรู้จักพวกกอบลิน มีเพื่อนเป็นกอบลิน และเตือนแฮร์รี่ว่าจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการทำสัญญาตกลงอะไรกับกอบลิน โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับสมบัติ เพราะวิธีคิดของพวกกอบลินในเรื่องของความเป็นเจ้าของนั้นแตกต่างจากของพวกพ่อมด โดยที่พวกกอบลินถือว่า สิ่งของต่างๆ ถือเป็นสิทธิ์ของคนที่สร้างขึ้น วัตถุต่างๆ ที่กอบลินสร้าง ในทัศนะของกอบลิน จึงถือว่าเป็นของกอบลินเสมอ แม้พวกพ่อมดจะจ่ายเงินให้ กอบลินก็จะถือว่านั่นคือการให้เช่าเฉยๆ เมื่อพ่อมดที่เป็นเจ้าของตายสิ่งของก็ควรจะกลับมาเป็นของกอบลินผู้สร้าง ไม่ใช่เป็นของตกทอดเปลี่ยนมือกันไประหว่างพวกพ่อมด ดังนั้นการยกของที่กอบลินสร้างตกทอดให้พ่อมดคนอื่นจึงเป็นการขโมยในสายตาของกอบลิน ในเมื่อแนวคิดเรื่องสิทธิ์แตกต่างจากของพวกพ่อมดเช่นนี้จึงทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันและไม่พอใจขึ้น พวกกอบลินจึงมีความเชื่อกันว่าพวกพ่อมดนั้นไว้ใจไม่ได้ในเรื่องเงินๆ ทองๆบิลกล่าวสรุปว่าจะทำสัญญาอะไรกับกอบลินก็ให้ระวัง แฮร์รี่ก็รับปากว่าจะจำใส่ใจไว้