ครับ ยาวหน่อยนะ ผมย่อไม่เก่ง
หลังจาก Dobby ตาย ทุกคนก็วิ่งออกมาหาแฮรี่ โดยที่รอนมาเฮอไมโอนี่เข้าไปพักข้างใน ส่วน Deanกับ nFleur ก็พาGriphook ที่บาดเจ็บไปรักษา
แฮรี่บอกว่าเขาต้องการฝังศพDobby ให้เหมาะสม และปฏิเสธที่จะใช้เวทย์มนตร์เสกหลุมฝังศพ แฮรี่ให้ทุกคนเข้าไปข้างในแล้วเริ่มต้นขุดหลุมด้วยตัวเองคนเดียว ถึงแม้แผลเป็นจะปวดแปลบ แต่แฮรี่ก็เรียนรู้ที่จะควบคุมความเจ็บปวดไว้ (เจอมาหนักนี่เนอะ) ขุดไปก็คิดไป Hallows / Horcruxes / Hallows / Horcruxes แล้วแฮรี่ก็คิดได้ว่า ตอนนี้ Vold อยู่ที่ไหน และนึกถึงหางหนอนที่ถูกฆ่า
สักพัก รอน กับ ดีนก็ออกมาช่วยขุดด้วย พอขุดเสร็จ รอนก็ถอดรองเท้าตัวเองสวมให้ Dobby ส่วนดีนก็เสกย์หมวกให้Harry เอาไปสวมหัวDobby แล้วทุกคนก็ออกมาข้างนอก เฮอร์ไมโอนี่ยังอาการไม่ดี ตัวซีดหนาวสั่น ส่วนลูน่าก็ปิดตาให้ศพของDobby
แฮรี่วางศพของDobby ลงในหลุม ลูน่าบอกว่าทุกคนควรจะพูดอะไรซักหน่อย โดยเธอเป็นคนเริ่มก่อน เธอกล่าวขอบคุณDobby ที่ช่วยชีวิตขจองเธอไว้ และมันไม่ยุติธรรมเลยที่Dobbyจะต้องมาตายทั้งๆที่เป็นคนดีและกล้าหาญ คนอื่นรวมทั้งแฮรี่พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำขอบคุณหรือคำลาก่อน หลังจากนั้นพอทุกคนกลับเข้าไปข้างใน แฮรี่ก็ขอเวลาอยู่กับหลุมศพคนเดียวสักพัก
แฮรี่ล้วงเข้าไปในกระเป๋า จับไม้กายสิทธิ์ทั้งสอง แล้วเลือกอันที่สั้นกว่า เขาเสกคาถาใส่หินก้อนใหญ่ๆแถวนั้นเพื่อทำป้ายหลุมฝังศพในDobby “HERE LIES DOBBY, A FREE ELF.”
พอแฮรี่เข้ามาด้านใน Bill ก็บอกว่าได้ย้ายทุกคนจาก Burrow ไปMuriel เรียบร้อยแล้ว เพราะพวก Death Eater รู้ว่า รอนอยู่กับแฮรี่ และครอบคัว Weasley จะตกเป็นเป้าหมายได้ และก็บอกว่าจะย้าย Olivander กับ Griphook ที่บาดเจ็บไปที่ Muriel ด้วย แต่แฮรี่สวนว่า เขาต้องคุยกับสองคนนั่นเป็นการส่วนตัว (ท่าทีแฮรี่ตอนนี้เปลี่ยนไปเลยครับ เข้มโหดทีเดียว) แฮรี่ขอตัวไปล้างมือที่เปลื้อนโคลน ระหว่างที่ล้างแฮรี่ก็คืดไปถึงว่าใครเป็นคนส่งDobby มาช่วย แล้วก็นึกไปถึงประโยคของDumbledore “จะมีความช่วยเหลือที่ฮอกวอร์ตเสมอเมื่อมีคนต้องการ (ภาษาไทยแปลแบบนี้รึเปล่าหว่า)”
(ย่อหน้าต่อไป อยากแปลเต็มๆช่วงครับ เพราะมันคมมากๆ)
........Harry understood and yet did not understand. His instinct was telling him one thing, his brain quite another. The Dumbledore in Harry’s head smiled, surveying Harry over the tips of his fingers, pressed together as if in prayer.
แฮรี่เข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจ สัญชาติญาณบอกเขาอย่างหนึ่ง แต่สมองก็บอกเขาอีกอย่าง ภาพของDumbledoreในหัวของแฮรี่กำลังยิ้ม มือประสานกันคล้ายกับกำลังสวดภาวนา
You gave Ron the Deluminator…You understood him…You gave him a way back…
คุณให้Deluminator กับรอน ...... คุณเข้าใจรอน ......คุณให้ทางออกกับเขา
And you understood Wormtail too…You knew there was a bit of regret there, somewhere
และคุณก็เข้าใจหางหนอน ... คุณรู้ว่าเขายังมีความสำนึกผิดซ่อนอยู่ในใจ
… And if you knew them…What did you know about me, Dumbledore? Am I meant to know but not to seek? Did you know how hard I’d feel that? Is that why you made it this difficult? So I’d have time to work that out?
.....ถ้าคุณเข้าใจพวกเขา แล้วผมล่ะ ดัมเบิลดอร์...ผมควรจะได้รู้แต่ห้ามค้นหาอย่างนั้นหรือ ..... คุณรู้ไหมว่ามันหนักหนาเหลือเกิน.... เพราะเหตุนี้เหรอ คุณถึงทำให้มันยากนัก เพื่อจะให้ผมใช้เวลาในการค้นหามัน
(แปลไม่ได้เรื่องเลยตรู แนะนำให้อ่านภาษาอังกฤษครับ ชอบๆๆ)
หลังจากคุ่นคิดอยู่สักพัก แฮรี่ก็ขอคุยกับ Olivander และ Griphook ...Fluer คัดค้านยและบอกว่าพวกเขายังเจ็บหนักอยู่ แต่แฮรี่บอกว่า ไม่มีเวลาแล้วบิลถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆแฮรี่ก็โผล่มาพร้อมศพของเอล์ฟ กับ ก๊อบลินที่บาดเจ็บ แฮรี่บอกว่า เขาบอกไม่ได้ และยังบอกอีกว่า บิลก็เป็นสมาชิกของ Order และรู้ว่า Dumbledore ฝากภารกิจไว้ให้ตัวเขา (อย่าถาม ว่างั้นเถอะ) บิลก็เลยถามว่า จะคุยกับใครก่อน คนขายไม้ หรือ ก๊อบลิน
แฮรี่ลังเลว่าจะเอาเรื่องไหนก่อนดี Hallows หรือ Horcruxes ....และก็ตัดสินใจเลือก.....Griphook แฮรี่ขอให้ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปด้วย
Griphook บอกว่าแฮรี่เป็นพ่อมดที่แปลกดูจากที่แฮรี่ทำหลุมฝังศพให้กับ Dobby ซึ่งเป็นเอล์ฟประจำบ้าน แล้วก็มีการถกเถียงเล็กน้อยระหว่างรอนกับ griphook เรื่อง “wand carrier” (ปัญหาระหว่างพวกพ่อมดที่ไม่ยอมให้ goblin ซึ่งสามารถให้เวทย์ได้อยู่แล้ว ถือครองไมกายสิทธิ์ เพราะจะทำให้มีอำนาจยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนรอนเถียงว่า goblin ก็ไม่บอกความลับของการหลอมดลหะกับพวกพ่อมดเหมือนกัน) แล้วก้เข้าสู่หัวข้อหลักที่คุยกับ Griphook ก็คือ แฮรี่บอกว่าจะบุกเข้าปล้นกริงกอร์ต. ... และจะบุกห้องเซฟของตระกูล Lestranges..... ถึง griphook จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่แฮรี่ก็บอกว่า ก็วันที่ แฮรี่ไปกริงกอร์ตวันแรกไง ที่มีคนบุกเข้าไปสำเร็จ Griphook ก็ปฏิเสธว่านั่นมันห้องเปล่าๆ แต่ของ Lestranges มันต้องแน่นหนาแน่ๆ แล้วยังถามว่า จะเข้าไปทำอะไร เพราะดาบของกริฟฟินดอร์ในห้องนนั้นมันก็ของปลอม (ของจริงอยู่นี่) แฮรี่บอกว่าในห้องมันมันมีอย่างอื่นอีกนอกจากดาบ...griphook บอกว่าความลับลูกค้าเปิดเผยไม่ได้ (แน่ะ เล่นตัวอีก) แฮรี่ขอให้griphook ช่วยพวกเขาในการที่จะบุกเข้าไปในเซฟ ซึ่ง griphook บอกว่าขอคิดดูก่อน.....
พอgriphook ออกมา แฮรี่ก็บอกรอนว่า ตอนที่แฮรี่โกหก เบลลาทริกซ์ว่าบุกห้องเซฟมาแล้ว เบาลาทริกซ์เหมือนกลัวอะไรบางอย่างจับจิต ซึ่งแฮรี่เดาว่าสิ่งของอีกสิ่งที่ซ่อนอยู่ในห้องเซฟก็คือ Horcrux อีกชิ้นหนึ่ง ถึงทำให้ เบลลาทริกซ์ออกอาการเมื่อได้ยินว่าโดนบุกเซฟ
รอนสงสัยเพราะนึกว่า Horcrux จะถูกซ่อนในที่ที่Voldermort เคยไป แล้วก็ถามว่า Voldermort เคยไปกริงกอร์ตเหรอ แฮรี่บอกว่า ตอนเด็ก Voldermort ยากจน น่าจะเป็นปมที่ทำให้อิจฉาพวกที่มีกุญแจเซฟที่กริงกอร์ต จึงเป็นไปได้ว่าความเก็บกดนี้จะทำให้โวลดี้เอาของไปซ่อนที่กริงกอร์ต
ต่อมาก็เป็นคิวของโอลิแวนเดอร์ ...โอลิแวนเดอร์กล่าวขอบคุณแฮรี่ที่ช่วยเขาออกจากการโดนทรมานอย่างหนัก... แฮรี่บอกไม่เป็นไร แล้วก็ส่งไม้กายสิทธิ์ที่หักครึ่งของเขาให้โอลิแวนเดอร์ซึ่งโอลิแวนเดอร์ก็บอกว่า ถ้าเสียหายขนาดนี้คงจะซ่อมไม่ได้แล้ว แฮรี่เลยเอาไม้อีก 2 อันในกระเป๋าให้โอลแวนเดอร์ดู ซึ่งโอลิแวนเดอร์ก็บอกได้ทันทีว่าเป็นของ เบลลาทริกซ์ กับของเดรโก มัลฟอย ...แฮรี่เลยถามว่า แล้วไม้นี่เค้าจะใช้ได้อย่างปลอดภัยมั้ย โอลิแวนเดอร์บอกว่า อาจจะ เพราะถ้าไม้กายสิทธิ์ถูกเอาชนะมาอย่างถูกต้องมันจะรับใช้นายใหม่ได้เต็มที่ รอนก็เอาไม้ของเพตติกรูให้โอลิแวนเดอร์ดู และถามว่าเขาควรจะใช้ไม้อันนี้รึเปล่า โอลิแวนเดอร์บอกว่าได้เ ถ้าเธอเป็นคนเอาชนะมา
แฮรี่เลยถามว่า กฏนี้ใช้ได้กับไม้ทุกอันรึเปล่า โอลิแวนเดอร์บอกว่า น่าจะ และบอกว่าศาสตร์ของไม้กายสิทธิ์มันซับซ้อนมาก แฮรี่เลยถามต่อว่า แล้วจำเป็นจะต้องฆ่าเจ้าของคนเดิมรึเปล่า เพื่อที่จะชิงไม้มา โอลิแวนเดอร์ปฏิเสธว่าคงจะไม้ต้องถึงขนาดฆ่าก็ได้ แฮรี่เลยยกเรื่องเล่าของไม้ที่ส่งต่อกันระหว่างฆาตกร ซึ่งโวลเดอมอร์ตกำลังต้องการไม้นี้อยู่...โอลิแวนเดอร์ตกใจมากว่าแฮรี่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง แฮรี่ยังบอกอีกว่า เขารู้ว่า โอลิแวนเดอร์บอกให้โวลเดอมอร์ตใช้ไม้ของคนอื่นแทน เพราะไม้ของทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ซึ่งทำให้โอลิแวนเดอร์ยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ แต่แฮรี่ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเล่าเรื่องที่ ไม้ของแฮรี่เสกคาถาโดยที่แฮรี่ไม่ได้ร่าย.. โอลิแวนเดอร์บอกว่าประหลาดมากและไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
แฮรี่เลยวกกลับมาที่เรื่องไม้ elder wand หรือ Deathstick หรือ Wand of Destiny (นึกว่า Pick of Destiny ซะอีกแหน่ะ)
โอลิแวนเดอร์เลยว่าว่า โวลเดอมอร์ตนั้นพอใจกับไม้ของตัวเองมาก จนกระทั่งพบว่า ระหว่างไม้ของแฮรี่กับตัวเองมันเชื่อมกัน เลยต้องการหาไม้ใหม่ แฮรี่เลยบอกว่า อีกไม่นานเดี๋ยวโวลเดอมอร์ตก็จะรู้ว่าไม้ของเขาหักไปแล้ว แต่เฮอร์ไม่เห็นด้วย และบอกว่าเขายังไม่รู้ และจะหลอกให้เป็นแบบนั้น แต่แฮรี่บอกว่า ร่องรอยที่บ้าน Malfoy จะทำให้ โวลเดอมอร์ตรู้ว่า เขาใช้ไม้อันอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง โอลิแวนเดอร์บอกว่า โวลเดอมอร์ตไม่ได้แค่ต้องการไม้ elder wand เพื่อเอาชนะแฮรี่ แต่ยังต้องการจะไร้เทียมทาน (เป็นหนังจีนไปแล้ว)
แฮรี่เลยทักว่า โอลิแวนเดอร์ใช่มั้ยที่บอกโวลเดอมอรืต ว่าไม้อยู่กับ Gregorovicth ซึ่งก็ทำให้ โอลิแวนเดอร์ตกใจ (เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว) ว่าทำไมแฮรี่รู้ (เยอะนัก) โอลแวนเดอร์บอกว่าเขาลือกันว่าอย่างนั้น และบางทีตัวGregorovitch เองที่เป็นคนปล่อยข่าวนี้ แฮรี่เลยถามต่อว่า โอลิแวนเดอร์ รู้อะไรเกี่ยวกับ deathly Hallows บ้าง ซึ่ง โอลิแวนเดอร์เองก็บอกว่าไม่รู้เลยว่าคืออะไร ...การซักถามโอลิแวนเดอร์จบแค่นี้
ทั้งสามคนออกมาที่หลุมศพของDobby ...ซึ่งแฮรี่เริ่มอธิบายทฤษฎีที่เขาคิดให้ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ฟัง แฮรี่บอกว่า ไม้เคยอยู่กับ Gregorovitch แต่ก็ถูก Grinderwald ขโมยไป ....ซึ่งในขณะนี้แฮรี่ก็สัมผัสได้ว่า โวลเดอมอร์ตมาอยู่ที่ประตูของฮอกวอร์ตแล้ว...!!!
แฮรี่เล่าต่อว่า ...เมื่อGrinder wald ทรงพลังมากขึ้น ก็โดนปราบ..โดยดัมเบิลดอร์.....ซึ่งก็แปลว่าไม้ elder wand อยู่กับดัมเบิลดอร์นี่เอง...และตอนนี้ไม้ก็อยู่ที่ฮอกวอร์ตนี่แหล่ะ.... รอนเลยบอกว่า งั้นก็รีบไปเอาเลยสิ ...แต่แฮรี่บอกว่า สายไปแล้ว...ป่านนี้ โวลเดอมอร์ตน่าจะไปถึงไม้ก่อนแล้ว
“ไม้ที่ไม่มีทางแพ้นะ แฮรี่” รอนครวญคราง
“ฉันไม่ควรจะไปเอาไม้.....ฉันควรจะไปเอาHorcrux…
ฉากตัดมาที่ โวลเดอมอร์ตกับ กับ สเนป โวลเดอมอร์ตสั่งในสเนปไปรอที่ปราสาท ส่วนตัวเองก็ใช้คาถากำลังกาย แล้วบุกหลุมศพของดัมเบิลดอร์ ศพของดัมเบิลดอร์ยังถูกเก็บไว้อย่างดี และนั่นเอง ที่หน้าอกของศพ สิ่งที่มือทั้งสองประสานไว้....elder wand
โวลเดอมอร์ตชิงไม้มาได้แล้ว.....
วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
24 The Wandmaker
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:42 3 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 24 The Wandmaker
23 Malfoy Manor
พวกล่าค่าหัวล้อมเต็นท์ของทั้ง 3 คน เสกคาถาใส่เข้าไปในเต็นท์ ทั้ง 3 คนโดนคาถากันเข้าไปเต็มๆ แฮรี่โดนคาถาเข้าเต็มหน้า ทั้ง 3 คนโดนจับได้ เกรแบ็คเป็นหัวหน้าพวกล่าค่าหัว พวกนี้รู้ที่อยู่ของทั้ง 3 คนเพราะแฮรี่เผลอเรียกชื่อโวลเดอร์มอร์ มีการลงคาถาใส่ชื่อนี้ ใครเรียกชื่อโวลเดอร์มอร์โดยตรงจะถูกระบุที่อยู่ได้และถูกจับกุมข้อหาต่อต้านและถูกสอบสวน
เกรแบ็คถามชื่อทั้ง 3 คน เกรแบ็คจำแฮรี่ไม่ได้เพราะแฮรี่โดนคาถาที่หน้าทำให้มีแผลและมีเลือด(มั้ง)กลบหน้าจนมองไม่ออก แฮรี่อ้าวว่าตัวเองชื่อเวอนอน ดัดลี่ รอนบอกว่าเขาชื่อบาร์ดี้ วีสลี่ที่เป็นญาติห่าง เฮอไมโอนี่บอกว่าเธอชื่อเพเนโลเป้ เคลียร์วอร์เตอร์ ทั้งสามคนอ้างว่าหนีโรงเรียนมา แต่ในราชชื่อนักเรียนไม่มีชื่อเวอนอน ดัดลี่ แฮรี่โดนซักเขาจึงอ้างว่าอยู่บ้านสลิเธอลิน และเนื่องจากแฮรี่เคยแอบเข้าไปในห้องนั่งเล่นของสลิเธอลินตอนปี 2 ทำให้เขาบรรยายภาพได้ถูก แฮรี่ยังอ้างว่ามีพ่อทำงานที่กระทรวง ปรากฏว่ามีคนนามสกุลดัดลี่ทำงานที่กระทรวงจริงๆ เกรแบ็คเกือบหลงเชื่อ แต่มีคนในกลุ่มหยิบเดลี่พรอเฟ็ตออกมา ในนั้นมีภาพเฮอไมโอนี่อยู่ในประกาศจับ เกรแบ็คจึงรู้ว่าพวกเขาโกหก และเวอนอน ดัดลี่จะต้องเป็นแฮรี่ พอตเตอร์ แต่ไม่มีใครแน่ใจ เต็นท์ถูกค้นอย่างละเอียดและดาบกริฟฟินดอร์ถูกยึดไปได้ เกรแบ็คสั่งให้พานักโทษทั้งหมดซึ่งรวมถึงดีน โทมัสและกริบฮุกที่ถูกจับได้ก่อนแล้วไปที่บ้านมัลฟอยล์ที่ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการ เดรโกกับลูเซียสที่เคยเจอพวกแฮรี่มาก่อนถูกตามมาระบุตัวแฮรี่ แต่ไม่มีใครกล้าชี้ชัดเพราะหน้าแฮรี่ตอนนี้เยินมาก แต่พวกเขาจำเฮอไมโอนี่กับรอนได้ ยังไม่มีใครกล้าตามตัวโวลเดอร์มอร์มาเพราะถ้าเกิดความผิดพลาดอาจได้รับโทษได้ แฮรี่เริ่มเจ็บแผลเป็นอีกครั้ง โวลเดอร์มอร์ไปพบใครคนนึงเพื่อตามหาของที่แฮรี่เชื่อว่าคือ wand ในตำนาน เบราทริกซ์เข้ามาในห้อง เธอเห็นดาบของกริฟฟินดอร์ที่เกรแบ็คถืออยู่ เธอตกใจมากเพราะเธอได้รับคำสั่งให้ไปดูและกริงกอตและตอนนี้ดาบน่าจะเก็บอยู่ที่นั่น เบราทริกซ์แย่งดาบมาจากเกรแบ็คและโวยวายถามว่าดาบนี่มาได้ยังไง พวกแฮรี่ไม่ตอบ เบราทริกซ์ยืนกรานว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องสอบสวนก่อนจะรายงานโวลเดอร์มอร์ได้ เธอสั่งให้เอานักโทษไปขังที่ห้องใต้ดินยกเว้นเฮอไมโอนี่ รอนพยายามขวางแต่ไม่สำเร็จ
ที่ห้องใต้ดิน แฮรี่ได้เจอลูน่ากับโอลิแวนเดอร์ที่ถูกขังมาก่อน เฮอไมโอนี่ถูกเบราทริกซ์ทรมานให้บอกว่าได้ดาบมาได้ยังไง พวกเขาแอบเข้าไปในกริงกอตได้ยังไง และขโมยอะไรไปอีกบ้าง เฮอไมโอนี่บอกว่าเจอดาบโดยบังเอิญและดาบอันนี้เป็นของปลอม เบราทริกซ์ให้พาตัวกริบฮุกมาดูดาบ ดาบของจริงสร้างโดยก๊อบลิน กริบฮุกต้องดูออก เดรโกมาที่ห้องขังพาตัวกริบฮุกไป แฮรี่แอบกระซิขอร้องให้กริบฮุกโกหก แฮรี่ใช่กระจกสองทางเรียกตัวด๊อบบี้มาช่วย แฮรี่ให้ด๊อบบี้พาลูน่า โอลิแวนเดอร์ และดีนหายตัวหนีไปก่อนค่อยกลัมารับเขากับรอน แต่เสียงหายตัวของเอลฟ์ดังมากจนลูเซียสได้ยิน ลูเซียสสั่งให้หางหนอนลงไปตวจดูห้องใต้ดิน แฮรี่กับรอนรอจังหวะที่หางหนอนเข้ามาในห้องขัง รอนริบ wand ของหางหนอนได้ แฮรี่เอามือปิดปากหางหนอนไม่ให้ส่งเสียง หางหนอนบีบคอแฮรี่ แฮรี่ทวงบุญคุณเรื่องที่เขาเคยช่วยหางหนอน หางหนอนจึงปล่อยมือจากแฮรี่ ทันใดนั้นมือปลอมของหางหนอนที่โวลเดอร์มอร์เสกให้กลับบีบคอตัวเอง แฮรี่กับรอนพยายามช่วยแต่ไม่สำเร็จ หางหนอนตาย(ซะงั้นแหละ)
ที่ด้านบน กริบฮุกบอกเบราทริกซ์ว่าดาบที่ยึดได้เป็นของปลอม เบราทริกซ์จึงใช้รอยแผลที่แขนเรียกตัวโวลเดอร์มอร์ โวลเดอร์มอร์กำลังทรมานชายแก่คนหนึ่งให้บอกว่าของอยู่ที่ไหนแต่ไม่สำเร็จ โวลเดอร์มอร์จึงฆ่าชายแก่นั่น รอนวิ่งขึ้นไปด้านบน ใช้คาถาปลดอาวุธ แฮรี่ที่ตามมายึด wand ของเบราทริกซ์ได้ เบราทริกซ์ใช้มีดขู่จะฆ่าเฮอไมโอนี่ รอนยอมวางอาวุธ ทันใดนั้นโคนไฟเพดานตกลงมาด้วยฝีมือด๊อบบี้ แฮรี่เสกคาถาใส่เกรแบ็ค โวลดอร์มอร์ใกล้จะกลับมาแล้ว แฮรี่สั่งให้บ๊อบบี้รีบพาทุกคนหนี กริบฮุกหยิบดาบได้ด้วย เบราทริกซ์ปามีดใส่ก่อนที่ทุกคนจะหายตัวไป เมื่อไปถึงที่หมาย แฮรี่พบว่าด๊อบบี้โดนมีดปักกลางอก ด๊อบบี้ตายในวงแขนของแฮรี่
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:40 1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 23 Malfoy Manor
22 The Deathly Hallows
ทั้งสามหนีมาได้ เฮอร์อธิบายว่า ต้องการให้ deatheater เห็นแฮรี่ก่อนหนีมาเพื่อจะได้รู้ว่า Xeno ไม่ได้โกหก และที่ให้รอนใส่ผ้าคลุมล่องหนเพราะจริงๆ แล้วเขาควรจะป่วยหนักอยู่บ้าน ไม่ใช่มาอยู่กับแฮรี่แบบนี้ ถ้าพวก Deatheater เห็นจะต้องทำร้ายครอบครัวรอนแน่ (ฉลาดมากๆ เฮอร์มี่) จากนั้นทั้งสามก็ถกเถียงกันเรื่อง Deathly Hallow ต่อว่ามีจริงไม่จริง รอนกับแฮรี่เริ่มเอียงไปทางจริง โดนรอนเปรียบเทียบกับ Chamber of Secret ที่เคยเชื่อกันว่าเป็นเพียงตำนาน แต่เฮอร์ยังคงไม่เชื่อ
จากนั้นทั้งสามคุยกันเรื่องครอบครัว Peverell ที่ Xeno บอกว่าเกี่ยวข้องกับ Deathly Hallow โดยตรง และเฮอร์เห็นหลุมศพของ3พี่น้อง Peverell ที่ Godric's Hollow (Xeno บอกว่าเป็น 3 พี่น้องในเรื่อง Tales of 3 Brothers) แล้วแฮรี่ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน จาก Marvolo Gaunt ว่าเขาสืบเชื้อสายมาจากตระกูล Peverell (ป้าเจเล่นแนวนี้อีกแล้วอ่ะ จำไม่ได้นะเนี่ย) และแหวนที่เป็น Horcrux ก็มีตราตระกูล Peverell และคิดว่าตราตระกูล Peverell คือสัญลักษณ์ของ Deathly Hallow นั่นเอง แฮรี่คิดว่าหินบนแหวนของมาโวโลคือ Resurrection Stone ในนิทาน แล้วแฮรี่ก็นึกถึงคำพูดของ Xeno ที่ว่าคนที่รวบรวมของ 3 อย่างได้จะเป็น Master of Death และข้อความบนหลุมศพพ่อแม่แฮรี่ที่ว่า The last enemy that shall be destroyed is death แฮรี่นึกถึงตัวเองที่ครอบครอง Hallow ทั้งสามสู้กับโวลดี้และHorcrux (กลายเป็นเรื่องอะไรไปแล้วเนี่ย -*-)
แฮรี่คิดว่าผ้าคลุมของตนเองคือผ้าคลุมล่องหนของน้องคนสุดท้องในนิทาน และตัวเองสืบเชื้อสายมาจากน้องคนสุดท้อง และอยู่ๆ แฮรี่คิดว่าแหวน Horcrux นั้นซ่อนอยู่ในลูกสนิชที่ดัมเบิลดอร์ให้มา (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอยู่ๆ คิดได้ไง) ตอนนี้เขาได้ Hallow มาสองอย่างแล้ว เหลืออย่างสุดท้าย Edler Wand แล้วแฮรี่ก็รู้ในที่สุดว่า โวลดี้ตามหา Elder Wand ถึงได้จับโอลิแวนเดอร์และ Gregorovitch ไป
แต่แฮรี่คิดว่าโวลดี้น่าจะไม่เคยได้ยินนิทานเรื่องนี้มาก่อนและไม่รู้จัก Deathly Hallow ดังนั้นโวลดี้อาจจะตามหา Elder Wand เพียงเพราะได้ยินเรื่องไม้กายสิทธิ์ที่มีอำนาจมากกว่าไม้ทั่วไป แต่ไม่รู้ว่ามันคือ Elder Wand ที่เอาชนะได้ทั้งหมด
เฮอร์ไม่เชื่อและคิดว่าแฮรี่คิดไปเอง ส่วนรอนคิดว่าน่าจะทำตามที่ดัมเบิลดอร์บอกคือทำลาย Horcrux ทั้งหมดซะ
ทั้งสามออกเดินทางตามหา Horcrux ไปตามสถานที่ต่างๆ ที่โวลดี้เคยไป
22 (ต่อ)
แฮรี่คิดว่าผ้าคลุมของตนเองคือผ้าคลุมล่องหนของน้องคนสุดท้องในนิทาน และตัวเองสืบเชื้อสายมาจากน้องคนสุดท้อง และอยู่ๆ แฮรี่คิดว่าแหวน Horcrux นั้นซ่อนอยู่ในลูกสนิชที่ดัมเบิลดอร์ให้มา (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอยู่ๆ คิดได้ไง) ตอนนี้เขาได้ Hallow มาสองอย่างแล้ว เหลืออย่างสุดท้าย Edler Wand แล้วแฮรี่ก็รู้ในที่สุดว่า โวลดี้ตามหา Elder Wand ถึงได้จับโอลิแวนเดอร์และ Gregorovitch ไป
แต่แฮรี่คิดว่าโวลดี้น่าจะไม่เคยได้ยินนิทานเรื่องนี้มาก่อนและไม่รู้จัก Deathly Hallow ดังนั้นโวลดี้อาจจะตามหา Elder Wand เพียงเพราะได้ยินเรื่องไม้กายสิทธิ์ที่มีอำนาจมากกว่าไม้ทั่วไป แต่ไม่รู้ว่ามันคือ Elder Wand ที่เอาชนะได้ทั้งหมด
เฮอร์ไม่เชื่อและคิดว่าแฮรี่คิดไปเอง ส่วนรอนคิดว่าน่าจะทำตามที่ดัมเบิลดอร์บอกคือทำลาย Horcrux ทั้งหมดซะ
ทั้งสามออกเดินทางตามหา Horcrux ไปตามสถานที่ต่างๆ ที่โวลดี้เคยไป และมีคุยกันถึงรายการวิทยุ Potterwatch ที่รายงานตามความจริงโดยไม่สนโวลดี้ รอนอยากให้แฮรี่ได้ฟังเลยพยายามหาจนเจอในที่สุด Lee Jordan กำลังรายงานข่าวการตายของ Ted Tonks และ Dirk Cresswell แต่ Dean Thomas หนีไปได้ และมีครอบครัวมักเกิ้ลตาย 5 คน และท้ายสุด พบศพของ Bathilda Bagshot ที่ Godric's Hollow จากนั้นเป็นเสียงรายงานของ Kingsley, Lupin คั่นด้วยข่าว Xeno ถูกจำคุก และ Hagrid เกือบถูกจับแต่หนีไปได้ จากนั้นเป็นเสียง Fred พูดถึงข่าวลือว่ามีคนเห็นโวลดี้ออกนอกประเทศ แฮรี่คิดว่าโวลดี้ออกตามหา Elder Wand แต่รอนกับเฮอร์ไม่เชื่อเลยทะเลาะกันและแฮรี่ก็พูดชื่อโวลดี้ออกมา ทันใดนั้น ก็มีเสียงคนข้างนอกบอกให้ยกมือขึ้นแล้วเดินออกมา
ต่อบทที่ 22 ด้านบน ในที่สุดรอนก็หาทางเปิดวิทยุได้ มีสถานีพิเศษที่จัดรายการสนับสนุนแฮรี่เป็นการลับ สถานีต้องย้ายที่จัดไปเรื่อยๆเพื่อความปลอดภัย ลี จอแดนเป็นคนจัดรายการ มีคิงลี่กับลูปินเป็นแขกประจำ ทั้งหมดใช้ชื่อปลอม มีการรายงานข่าวเรื่องเทฌด พ่อของท๊องก์กับเดิกและก๊อบลินชื่อ Gornuk ถูกฆ่าตาย ส่วนดีนและกริบฮุกหนีไปได้ และยังรายงานว่าครอบครัวมักเกิ้ลครอบครัวหนึ่งถูกผู้เสพความตายฆ่า และยังรายงานการพบศพบาทิลด้า แบ็กชอตที่ก๊อดดริก ฮอลโลด้วย ทั้งสามคนพยายามพูดให้กำลังใจฝ่ายที่ต่อต้านและบอกว่าแฮรี่ต้องยังไม่ตาย เพราะแฮรี่คือความหวังสุดท้ายของทั้งหมด หากแฮรี่ตายพวกผู้เสพความตายต้องประโคมข่าวนี้แน่นอน จากนั้นก็มีเฟรดมารับเชิญเล่าเรื่องตลกนิดหน่อยก่อนจะปิดรายการไป ทั้งสามคนรู้สึกดีขึ้น แฮรี่เผลอเรียกชื่อโวลเดอร์มอร์ตรงๆออกมา ทันใดนั้นเต็นท์ก็ถูกล้อม
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:39 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 22 The Deathly Hallows
21 - The Tale of the Three Brothers #1
เมื่อ Xenophilius พูดถึง Deathly Hallows พวกของแฮร์รี่ก็งุนงงและไม่เข้าใจ จน Xenophilius พูดถึงนิทานเรื่อง The Tale of the Three Brothers ซึ่งรอนกับเฮอร์ไมโอนี่รู้จัก แต่แฮร์รี่ไม่รู้จัก มันเป็นนิทานของพวกพ่อมด และเฮอร์ไมโอนี่ก็หยิบหนังสือที่ดัมเบิลดอร์ให้ออกมา มันคืนเล่มต้นฉบับนิทานของ Beedle the Bard และเล่าให้คนในที่นั้นฟัง
..... ครั้งหนึ่งมีพี่น้องสามคน เดินทางท่องเที่ยวผ่านแม่น้ำสายหนึ่งที่เชี่ยวมาก พวกเขาจึงโบกไม้กายสิทธิ์ สร้างสะพานขึ้นเพื่อเดินข้าม เดธที่เฝ้าอยู่โกรธมากเพราะสามพี่น้องไม่หลงกล นักเดินทางส่วนใหญ่มักจะจมน้ำตายตรงนั้น แต่เดธก็เจ้าเล่ห์พอ จึงบอกว่าเขายินดีจะมอบของขวัญให้สามพี่น้อง
.... คนโต มีนิสัยชอบใช้กำลัง ขอไม้กายสิทธิ์ ที่จะชนะในทุก ๆ การดวลต่อสู้ ไม้กายสิทธิ์ที่คู่ควรกับพ่อมนที่เอาชนะความตาย เดธไปยัง Elder Tree และสร้างไม้กายสิทธิ์จากกิ่งไม้ และมอบให้คนโต
.... คนกลาง เป็นคนที่จองหอง ขอพลังที่จะเรียกคนตายให้ฟื้นคืน เดธจึงหยิบศิลาตรงริมน้ำ มอบให้กับคนรอง
.... คนเล็ก เป็นคนถ่อมตนแต่ฉลาดที่สุด ขอสิ่งที่จะทำให้เขาไปไหนมาไหนได้โดยที่เดธติดตามเขาไปไม่ได้ ซึ่งเดธ โดยไม่เต็มใจนัก มอบเสื้อคลุมล่องหนให้
.... สามพี่น้องเดินทางต่อ ชื่นชมของขวัญที่ได้รับ และแยกย้ายจากกันไปตามจุดหมายของแต่ละคน
.... คนโตเดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เอาชนะพ่อมดคนอื่นด้วย Elder Wand และโอ้อวดว่าถึงไม้กายสิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดที่เขาได้มาจากเดธ คืนนั้น พ่อมดคนหนึ่งขโมย Elder Wand ไปขณะที่คนโตกำลังหลับและฆ่าเขาเสีย ... เดธได้ครอบครองคนโตแล้ว
.... คนรองกลับไปที่บ้านและลองใช้ศิลาเรียกคนตาย ซึ่งกลายเป็นหญิงสาวที่เขารักและจะแต่งงานด้วย แต่กลับเสียชีวิตลงก่อนวัยอันควร นางเศร้า หนาว และเจ็บปวดที่ต้องจากเขาไป แต่นางก็อยู่ในโลกนี้ไม่ได้ และก็ทรมาน คนรองเสียสติด้วยความโหยหา และฆ่าตัวตายตามนางไปเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน ... เดธได้ครอบครองคนรองแล้ว
.... เดธตามหาคนเล็กอยู่นานหลายปี แต่ก็ไม่พบ นานวันเข้า คนเล็กแก่ชราลง จึงออกจากผ้าคลุมล่องหน มอบต่อให้ลูกชายของเขา คนเล็กทักทายเดธราวกับเพื่อนเก่า และจากไปกับเดธด้วยความยินดี และเท่าเทียมกัน
Xenophilius บอกว่า ทั้งสามนี่คือ Deathly Hallows .. Elder Wand, Resurrection Stone และเสื้อคลุมล่องหน ซึ่งผู้ครองสิ่งสามอย่างนี้จะ *master of Death*
เดี๋ยวต่อค่ะ บทนี้รายละเอียดเยอะมาก
......... .........
Note : - master of death บีจังไม่กล้าแปลไทยค่ะ คือกลัวว่าเจเคจะเล่นคำอีก Master มีความหมายหลายอย่าง เช่น นาย, เชี่ยวชาญ, มีอำนาจเหนือ, ควบคุม หรือตามความหมายที่ Xenophilius บอกคือ ผู้พิชิต ผู้ชนะ
Xenophilius เชื่อว่าทั้งสามสิ่งมีอยู่จริง แต่เขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน หรือหนึ่งในของสามอย่าง ผ้าคลุมล่องหน นั้นอยู่กับพวกแฮร์รี่ในห้องเดียวกันนี้เอง พวกเขาคุยเรื่อง Elder Wand ซึ่ง Xenophilius บอกว่าเป็นสิ่งที่ยังพอติดตามได้บ้าง เพราะไม้กายสิทธิ์ต้องผ่านจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งหากเขาเป็นผู้ครองไม้นั่นจริง แต่ตอนนี้ Xenophilius เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม้นั่นไปอยู่ที่ไหนแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ถาม Xenophilius เกี่ยวกับครอบครัว Peverells ซึ่งเป็นชื่อหนึ่งบนหลุมศพที่ Godric's Hallow ...
Xenophilius บอกว่า สามพี่น้อง Peverells คือคนที่ได้ครอบครอง Hallows ทั้งสาม ซึ่งก็คือสามพี่น้อง Antioch, Cadmus และ Ignotus และเป็นคนเดียวกับสามพี่น้องในนิทานที่ได้ครอบครอง Hallows จริง ๆ
Xenophilius ที่มองนอกหน้าต่างตลอดเวลา ขอตัวลงไปเตรียมอาหารให้ แฮร์รี่ปรึกษาเรื่องที่เพิ่งรู้นี้กับเพื่อน ๆ ซึ่งรอนดูไม่ค่อยเชื่อ เพราะเขาได้ยินนิทานเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ผิดกับเฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่ที่อยู่กับมักเกิ้ล เลยมีความเชื่อที่ต่างกันเรื่องการมองว่าของขวัญชิ้นไหนดีที่สุด ซึ่งทั้งสามคนก็เลือกของต่างกัน เฮอร์ไมโอนี่เลือกผ้าคลุม รอนเลือกไม้กายสิทธิ์ แฮร์รี่เลือกศิลา .. แฮร์รี่ให้เหตุผลว่า เขาอาจทำให้พ่อแม่ ซีเรียส หรือดัมเบิลดอร์กลับมาได้ แม้เขาก็รู้ว่าในนิทาน คนที่ตายไปไม่อยากจะกลับมา เฮอร์ไมโอนี่บอกว่า Beedle the Bard น่าจะได้ไอเดียจากศิลาอาถรรพณ์มาเขียนนิทาน ระหว่างที่พูดคุยกัน แฮร์รี่เกิดเอะใจ จึงเดินขึ้นข้างบน และเข้าไปในห้องลูน่า และพบว่าเป็นห้องที่ทิ้งร้างมาสักพัก เขาจึงรู้ว่าลูน่าไม่ได้อยู่ที่นี่สักระยะแล้ว จึงไปถาม Xenophilius ซึ่ง Xenophilius ยอมรับว่า เขาบอกทางกระทรวงแล้วแฮร์รี่อยู่ที่นี่ และที่ต้องทำแบบนี้เพราะพวกผู้เสพความตายจับตัวลูน่าเอาไว้ Xenophilius พยายามจะเสกคาถาจับพวกแฮร์รี่แต่พวกเขาหลบได้ และสะท้อนคาถากลับจนระเบิด Xenophilius ตกบันไดวนลงมาข้างล่าง และพวกผู้เสพความตายก็มาถึงที่บ้านพวกผู้เสพความตายไม่ได้รีบร้อนนัก เพราะคิดว่า Xenophilius โกหกอีก และบอกให้ Xenophilius ขึ้นไปจับแฮร์รี่ลงมา เฮอร์ไมโอนี่วางแผน ให้รอนอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน เสกคาถาใส่ Xenophilius และทำลายพื้นจนเป็นโพรง พวกเขาหล่นลงไปทับผู้เสพความตายที่อยู่ข้างล่าง และหายไปหนีไปหลังจากที่ผู้เสพความตายเห็นหน้าแฮร์รี่แล้ว
Note : - ตอนคุยกัน มีการพูดถึง Deathstick กับ The Wand of Destiny ซึ่งเป็นชื่อไม้กายสิทธิ์ที่ศาสตราจารย์บินส์เคยพูดถึงในวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์
- - เฮอร์ไมโอนี่ให้รอนซ่อนในผ้าคลุม เพราะพวกเขาหลอกทางโรงเรียนและกระทรวงว่ารอนนอนป่วยอยู่ที่บ้าน จึงให้พวกผู้เสพความตายเห็นรอนไม่ได้
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:38 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 21 - The Tale of the Three Brothers #1
20 - Xenophilius Lovegood
แม้เฮอร์ไมโอนี่ยังดูงอน ๆ อยู่บ้าง แต่แฮร์รี่ก็รู้สึกดีมากกว่าเดิมเยอะที่พวกเขาทั้งสามกลับมาอยู่ด้วยกันอีก พวกเขาปรึกษากันว่าจะเอาไงต่อ รอนที่ได้อยู่ข้างนอกมาสักพักเอาข่าวมาอัพเดทเพื่อน ๆ เขาไม่ได้กลับไปที่บ้านโพรงกระต่าย แต่ไปอยู่ที่บ้านของบิลกับเฟลอรืแทน แล้วรอนก็บอกว่า ที่พวกกระทรวงและผู้เสพความตายตามพวกเขาเจอได้ก็เพราะพวกเขาเอ่ยชื่อ โวลเดอมอร์ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องหยุดเรียกชื่อนั้นและตอนนี้บิลเองก็กำลังหลบหนีอยู่เหมือนกัน .. พวกเขาคุยกันเรื่องผู้พิทักษ์กวางสาว ซึ่งก็ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นคนเสก
แฮร์รี่พยายามฝึกใช้ไม้กายสิทธิ์อันใหม่ แต่ก็พบว่ามันมีพลังน้อยกว่าไม้ของตัวเอง ... เฮอร์ไมโอนี่เดินมาหาแฮร์รี่ และบอกว่าเธอต้องการไปพบ Xenophilius Lovegood พ่อของลูน่า และชี้ให้แฮร์รี่ดูในหนังสือประวัติดัมเบิลดอร์ที่ริต้า สคีเตอร์เขียนขึ้น มันมีลายเซ็นต์ของดัมเบิลดอร์ในจดหมายที่เขียนถึง Grindelwald ซึ่งตัว A ในลายเซ็นต์นั้นถูกแทนตัวสัญลักษณ์เล็ก ๆ ที่เหมือนกับสัญลักษณ์ที่พวกเขาเจอในหนังสือนิทานที่ดัมเบิลดอร์ให้เธอ
เฮอร์ไมโอนี่สงสัยเกี่ยวกับสัญลักษณ์นี้ซึ่งโผล่มาหลายครั้งแล้ว ทั้งในหนังสือ หลุมศพหนึ่งใน Godric's Hollow และเหมือนพ่อของลูน่าจะมีข้อมูลเรื่องสัญลักษณ์นี้พวกเขาเดินทางไปที่บ้านลูน่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านโพรงกระต่าย
... Xenophilius ต้อนรับพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ แฮร์รี่ขอให้เขาช่วย ซึ่งเขาก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี เลยออกไปตามลูน่า ในบ้านนั้นมีแต่ของเวทมนต์ที่แปลกและอันตรายมาก ๆ เมื่อ Xenophilius กลับมา บอกว่าเดี๋ยวลูน่าจะตามมา แฮร์รี่ก็ถามเขาเรื่องสัญลักษณ์ที่ Xenophilius ห้อยอยู่ แต่ Xenophilius เลิกคิ้ว และถามกลับว่า แฮร์รี่กำลังหมายถึงสัญลักษณ์ของ Deathly Hallows อยู่เหรอ............
- รู้แล้วค่ะ ว่าสเนปเป็นคนเสกผู้พิทักษ์ค่ะ (บทหลัง ๆ ค่ะ ตอนที่แฮร์รี่ดูความทรงจำของสเนปใน Pensive)
- ที่บอกว่าเฮอร์ไมโอนี่น่ากลัว แบบที่พี่ Domingo อธิบายเลยค่ะ ..... ก็ตอนที่เฮอไมโอนี่เห็นรอนนะครับ เธอแสดงท่าทางโกรธมากออกมา แบบว่าแทบจะฆ่ารอนทิ้งเลยแหละ โทษฐานที่รอนทิ้งเธอไปตั้งหลายอาทิตย์ จนแฮรี่ต้องเสกคาถาเกราะป้องกันออกมากั้นระหว่างทั้งสองคนไว้ และรอนก็ต้องเมื่อยปากอธิบายตั้งนานกว่าแฮอไมโอนี่จะอารมณ์เย็นลงได้ ....
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:36 1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 20 - Xenophilius Lovegood
19 - The Silver Doe
พักพลังพวกเขาเหมือนได้ยินเสียงแปลก ๆ ด้านนอก พวกเขาเลยย้ายที่พักโดยการหายตัวใต้ผ้าคลุมล่องหน ครั้งนี้ พวกเขาไปที่ Forest of Dean ที่เฮอร์ไมโอนี่เคยมาตั้งแคมป์กับพ่อแม่ ... รอบด้านคลุมด้วยหิมะ และเงียบสงบ แฮร์รี่ครุ่นคิดเรื่องดัมเบิลดอร์
เรื่องที่เกิดขึ้นที่ Godric's Hollow และท้ายที่สุด เขาเป็นห่วงและคิดถึงจินนี่มาก ๆ ทันใดนั้น เขาก็เห็นแสงสีเงิน ที่ประหลาดมาก เขาเคยเดินออกไปนอกเขตที่พัก แสงสีเงินนั่นคือผู้พิทักษ์ที่เป็นร่างกวางสาวสีเงินที่งดงามมาก ๆ มันวิ่งหนี แฮร์รี่ตามมันไปจนถึงสระน้ำแข็ง แฮร์รี่รู้สึกเหมือนมีคนวิ่งตามมา แล้วเขาก็เห็นดาบของกริฟฟินดอร์อยู่ใต้สระนั่น
แฮร์รี่มองรอบ ๆ คิดว่าถ้าเป็นผู้เสพความตายตามมา เขาคงถูกทำร้ายแล้ว เขาคิดถึงดัมเบิลดอร์ แปลกใจว่าทำไมดาบมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วเขาก็ทำลายน้ำแข็ง ถอดเสื้อผ้า วางของต่าง ๆ ไว้ แล้วกระโดดลงไปเอาดาบในสระ ... น้ำในนั้นเย็นเฉียบ และสร้างความลำบากให้แฮร์รี่มาก เมื่อเขาเข้าใกล้ดาบ สร้อยคอล็อกเก็ตที่ใส่อยู่ก็รัดคอแฮร์รี่จนหายใจไม่ออก เขาคิดว่าเขาต้องตายแล้วแน่ ๆ แต่ทันใดนั้น ก็มีคนมาช่วย เหมือนกับครั้งที่เฮอร์ไมโอนี่มาช่วยเขาจากงูขึ้นมาจากน้ำ แฮร์รี่เห็นรอนเปียกโชกไปทั้งตัว มือหนึ่งถือดาบกริฟฟินดอร์ อีกมือถือ Horcruxes ที่สร้อยขาดแล้ว แฮร์รี่ทั้งตกใจ ดีใจและแปลกใจที่เห็นรอนที่นี่ รอนบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนเสกกวางสีเงินนั้นเพราะคิดว่าเป็นผู้พิทักษ์ของแฮร์รี่ ซึ่งแฮร์รี่ก็แย้งว่าผู้พิทักษ์ของตัวเองคือกวางตัวผู้ (Stag) แต่ก่อนที่พูดถึงความสงสัยอื่น แฮร์รี่เรียกรอนมา และขอให้เขาเป็นคนทำลาย Horcruxes ด้วยดาบ เพราะรอนเป็นเขาเอาดาบขึ้นมา และแฮร์รี่คิดว่ามันควรจะเป็นรอน แม้รอนจะดึงดันว่าเขาไม่เหมาะ แต่สุดท้าย รอนก็ยอม .. แฮร์รี่เปิดล๊อกเก็ตด้วยภาษาพาร์เซล ร่างของทอม ริดเดิ้ลก็ปรากฏขึ้น พูดจาถากถางว่ารอนเป็นแค่คนที่อยู่ข้าง ๆ แฮร์รี่เท่านั้น ไม่มีใครสนใจรอน แล้วก็ปลอมเป็นแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่และดูถูก เยาะเย้ยรอนแถมยังจูบกันต่อหน้ารอนด้วย ทำให้รอนเจ็บปวดมาก รอนเงื้อดาบอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ฟันร่างนั้นเสียที จนทอมสร้างภาพต่าง ๆ นานา ๆ ที่ทำร้ายจิตใจรอนมากขึ้น แต่ทุกท้าย รอนก็ฟันร่างทอม ริดเดิ้ลได้
พวกเขากลับมาหาเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งทั้งดีใจ ทั้งโกรธที่รอนไม่ยอมกลับมาเสียที แล้วรอนก็บอกว่าเขาตามเพื่อน ๆ เจอเพราะ Deluminator ที่ดัมเบิลดอร์ให้มา เขาเล่าว่าที่กลับมาเลยไม่ได้เพราะตอนนั้นที่โกรธและหายตัวไป รอนไปเจอกับพวก Snatchers เป็นกลุ่มที่ไล่ตามจับพวกที่เกิดจากมักเกิ้ลและพวกทรยศแล้วไปเอารางวัลจากกระทรวง รอนบอกพวกนั้นว่าเขาคือ Stan ภายหลังก็หนีออกมาได้ แล้วเขาก็มีไม้กายสิทธิ์สำรองด้วย
Note : - เฮอร์ไมโอนี่เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวมากค่ะ ...
- แฮร์รี่บอกรอนว่า เขาคิดกับเฮอร์ไมโอนี่เหมือนพี่น้องและแน่ใจว่าเฮอร์ไมโอนี่ก็คิดเหมือนกัน
- เผื่อมีใครยังไม่รู้ ... แฮร์รี่มีค่าหัว หนึ่งพันเกลเลียน ค่ะ
- จบบทนี้ พวกเขายังไม่รู้ว่าใครเสกผู้พิทักษ์มานำทางค่ะ
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:34 1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 19 - The Silver Doe
18 – The Life and Lies of Albus Dumbledore
แฮรี่ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ได้เผชิญมาที่ก็อดดริก ฮอลโลว์ และรู้สึกโกรธดัมเบิลดอร์อย่างมากที่ไม่ได้บอกอะไรให้พวกเขารู้ พวกเขาไปที่นั่นเพราะคิดว่าจะได้คำตอบที่ตนต้องการรวมถึงเรื่องดาบ แต่กลับต้องไปเผชิญหน้ากับกับดักของโวลเดอมอร์และต้องหนีเอาชีวิตรอดและไม้กายสิทธิ์ของเขายังมาหักเสียอีก กลายเป็นว่าฝ่ายของโวลเดอมอร์ได้ข้อมูลที่เขาต้องการ จากนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็เข้ามาขัดจังหวะความคิดของเขา (ด้วยชาร้อนๆสองแก้ว)และบอกว่ามีอะไรบางอย่างให้ดูที่น่าจะเกี่ยวกับผู้ชายในรูปที่แฮรี่ต้องการรู้ว่าเขาคือใคร และหยิบหนังสือ The Life and Lies of Albus Dumbledore ซึ่งมีลายมือของรีต้า สกีตเตอร์ อยู่ด้วย เป็นข้อความขอบคุณให้กับ
Batilda Bagshot ที่ให้ข้อมูลในการทำหนังสือเล่มนี้
แฮรี่หวังว่าเขาจะได้พบข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับดัมเบิลดอร์ที่เขาไม่เคยรู้และที่ดัมเบิลดอร์ไม่เคยบอก เขาจึงเริ่มเปิดหนังสืออ่านไปพร้อมกับเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งในนั้นเขียนไว้ว่ากรินเดอวัลคือเพื่อนของดัมเบิลดอร์ และกล่าวถึงเกียรติยศต่างๆที่ดัมเบิลดอร์ได้รับหลังจบการศึกษาจากฮอกวอร์ตและเขามีแผนจะไปเดินทางท่องเที่ยวกับ Elphias “Dogbreath” Doge แต่ต้องกลับมาที่ก๊อดดริก ฮอลโลว์เพราะต้องดูแลน้องๆของเขา จากนั้นในหนังสือก็ลงบทสัมภาษณ์และเรื่องราวที่เกี่ยวกับครอบครัวของดัมเบิลดอร์ (แน่นอนว่าตามสไตล์ของริต้า สกี้ตเตอร์) และตามด้วยเรื่องราวของ Gallert Grinderwald ว่าเป็นหลานที่ Batilda Bagshot รับเลี้ยงและได้กลายเป็นพ่อมดศาสตร์มืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคก่อนหน้าโวลด์เดอมอร์ (ลงรายละเอียดค่อนข้างเยอะขอไม่แปลนะคะ แม้ว่าอาจจะสำคัญในภายหลังน่ะนะ ถ้ามีใครมาแปลลงไว้ต่อก็ดี) และกล่าวถึงการตายของ Arina Dumbledore น้องสาวที่เป็นสควิบของดัมเบิลดอร์ว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองคนหรือไม่ มีคำที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น ‘For the Greater Good’ จากนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็รีบย้ำกับแฮรี่ว่ามันเป็นหนังสือที่เขียนโดยริต้า สกีตเตอร์และย้ำว่าความสนิทสนมของดัมเบิลดอร์และกรินเดอวัลอาจนำไปสู่หนทางในการสร้างพลังอำนาจต่างๆ
ของกรินเดอวัลก็จริง
แต่ตอนนั้นพวกเขาก็ยังเป็นเด็กหนุ่ม และดัมเบิลดอร์ก็เพิ่งจะสูญเสียพ่อแม่
แต่แฮรี่กลับรู้สึกโกรธอย่างมากและทุ่มเถียงกับเฮอร์ไมโอนี่อย่างรุนแรงเรื่องที่เขารู้สึกว่าดัมเบิลดอร์ละเลยน้องๆของตนเอง สุดท้ายเฮอร์ไมโอนี่ทนไม่ไหวจึงบอกว่าที่แฮรี่รู้สึกโกรธแค้นอย่างมากอาจเป็นเพราะเขาคิดว่าทำไมดัมเบิลดอร์จึง
ไม่บอกเรื่องเหล่านี้ให้เขารู้ด้วยตนเอง เฮอร์ไมโอนี่ย้ำว่าดัมเบิลดอร์รักและห่วงใยแฮรี่อย่างแน่นอน แต่แฮรี่ไม่เชื่อและบอกว่าดัมเบิลดอร์ทิ้งให้เขาอยู่กับเรื่องราวที่เป็นอันตรายและยุ่งเหยิงมากมายโดยไม่บอกอะไรเขาเลย แต่กลับบอกหลายเรื่องกับกรินเดอวัล แฮรี่บอกให้เฮอร์ไมโอนี่กลับเข้าเต้นท์ไปอยู่ในที่อุ่นๆ เฮอร์ไมโอนี่หันหลังเดินกลับไปและยกมือแตะที่หลังศีรษะแฮรี่อย่างแผ่วเบา
แฮรี่หลับตาลงแวบหนึ่งและภาวนาให้สิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่คิดเป็นจริง ที่ว่าดัมเบิลดอร์รักและห่วงใยเขา
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:32 1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 18 – The Life and Lies of Albus Dumbledore
17 There
"แฮรี่ หยุดก่อน"
"มีอะไรผิดปกติหรือ" พวกเขาเพิ่งเดินมาถึงหลุมฝังศพของพวกสกุลแอบบ๊อทคนหนึ่ง
"มีใครบางคนอยู่ที่นั่น ชั้นบอกได้เลยว่าใครบางคนกำลังดูเราอยู่ อยู่บนแท่นที่นั่น"
พวกเขายืนนิ่งกันอยู่ จับมือกันและกัน มองไปในความมืดของสนามหญ้าที่เป็นหลุมฝังศพ แฮรี่ไม่เห็นอะไรผิดปกติ
"เธอแน่ใจหรือ"
"ชั้นเห็นบางอย่างเคลื่อนไหว สาบานได้ ชั้นเห็นจริงๆ"
เธอปล่อยมือจากเขาเพื่อให้มีมือว่างที่จะใช้ไม้กายสิทธิได้
"แต่พวกเราก็ดูเหมือนพวกมักเกิ้ลไม่ใช่หรือ" แฮรี่ถาม
"อ้อ พวกมักเกิ้ลที่เพิ่งวางดอกไม้บนหลุมศพของพ่อแม่ของเธออย่างนั้นนะหรือ ชั้นแน่ใจว่ามีใครอยู่ตรงนั้น"
แฮรี่คิดถึงหนังสือประวัติศาสตร์เวทมนต์ที่กล่าวว่าสนามหญ้าที่เป็นหลุมฝังศพเป็นสถานที่ค่อนข้างน่ากลัว
และหลอกหลอน ถ้าหากเพียงแต่ว่า...แต่ในนาทีนั้นเขาได้ยินเสียงใบไม้กรอบแกรบ และเห็นร่องรอยของหิมะบนแท่นที่เฮอร์ไมโอนี่พูดถึง แน่นอนว่าผีไม่สามารถที่จะทำให้หิมะเคลื่อนที่หรือมีร่องรอยได้
"ก็แค่แมว" แฮรี่พูด "หรืออาจจะเป็นนก ถ้ามันเป็นพวกผู้เสพความตาย เราคงตายไปแล้ว แต่ออกไปจากนี่กันเถอะ เราใช้ผ้าคลุมล่องหนได้ "
พวกเขาเหลือบมองกลับไปทางที่จะออกจากสนามหญ้า แฮรี่ไม่ได้รู้สึกสบายใจเหมือนกับที่เค้าได้แสดงออกให้เฮอร์ไมโอนี่เห็น
เขารู้สึกดีใจที่กลับมาที่ประตูและทางเดินเท้าพวกเขาคลุมผ้าคลุมล่องหน เมื่อพวกเขากลับมาที่ผับ ผับดูเหมือนหนาแน่นกว่าก่อนหน้านี้ มีเสียงร้องเพลงเหมือนที่พวกเขาเคยได้ยินที่โบสถ์ แฮรี่คิดจะกลับไปนั่งที่ผับ แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร เฮอร์ไมโอนี่ก็ดึงเขาไปอีกทางหนึ่งที่ตรงข้ามกับทางที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาเดินกันมาเรื่อยๆ แฮรี่บอกไม่ได้ว่ากระท่อมหลังสุดท้ายจะสิ้นสุดลงเมื่อไร พวกเขาเดินกันอย่างเร็วที่สุดที่จะทำได้ ผ่านหน้าต่างที่มีแสงไฟวับแวม มีต้นคริสมาสต์มองเห็นเป็นเงาๆ ในความมืด
"เราจะหาบ้านของบาทิลด้าเจอได้อย่างไร"เฮอร์ไมโอนี่ถามและเหลียวหลังไปมอง
"แฮรี่ เธอคิดว่างัยหือ แฮรี่"
หล่อนกระตุกแขนเขา แต่แฮรี่ไม่ได้สนใจ เขามองฝ่าความมืดไปยังบ้านหลังสุดท้ายของแถวนั้น เขาเร่งความเร็วขึ้นและลากเฮอร์ไมโอนี่ไปกับเขา หล่อนลื่นเล็กน้อยบนน้ำแข็ง
"แฮรี่ "
"มอง... มองดูซิ เฮอร์ไมโอนี่."
"ชั้นไม่เห็น . . . โอ้"
พวกเขาเห็นมัน รั้วต้นไม้สูงขึ้นนับตั้งแต่ 16ปีหลังจากที่แฮกริดเอาแฮรี่ไป กระท่อมส่วนใหญ่ยังคงอยู่แต่ถูกปกคลุมด้วยเถาไอวี่และหิมะ.แต่ทางขวาของชั้นบนสุดถูกระเบิดออกไป แฮรี่แน่ใจเลยทีเดียวว่านี่เกิดจากไฟที่เกิดจากคำสาบ เขาและเฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ที่ประตู และมองไปที่กระท่อม
"น่าประหลาดใจว่าทำไมไม่มีใครคิดจะซ่อมมันเนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ
"บางทีพวกเขาอาจจะซ่อมมันไม่ได้ แฮรี่ตอบ "เพราะมันพังเนื่องจากคำสาบด้านมืด
จึงไม่สามารถซ่อมได้”
แฮรี่ปล่อยมือจากผ้าคลุมล่องหน และเดินไปที่ประตู ไม่ได้คิดจะเปิดมันออก แต่ก็ทาบมือลงกับส่วนหนึ่งของบ้าน
"เธอไม่ได้คิดจะเข้าไปข้างในใช่ไหม มันมองดูไม่ปลอดภัยเลย มันอาจจะ ...แฮรี่..ดูซิ"
ดูเหมือนว่ามือเขาที่ทาบบนประตูเป็นตัวทำให้เกิดขึ้น มีเครื่องหมายแผ่นป้ายผุดขึ้นตรงพื้นหน้าพวกเขา ผ่านกลุ่มต้นไม้ตรงนั้น มันดูประหลาด อักษรสีทองบนแผ่นไม้เขียนไว้ว่า ที่จุดนี้ คืนวันที่ 31 ตุลาคม 1981 ลิลลี่และเจมส์เสียชีวิต ลูกชายของพวกเขา เด็กชายคนเดียวที่เหลืออยู่จากคำสาบ Killing Curse. บ้านหลังนี้พวกมักเกิ้ลไม่สามารถมองเห็นได้ มันเก็บไว้ในสถานะที่เหมือนกับตอนมันถูกทำลาย มันเป็นเหมือนอนุสาวรีสำหรับพวกพอตเตอร์ เพื่อเตือนให้ระลุกถึงความรุนแรงที่ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวเขา และรอบๆ ก็มีคำพูดอื่นๆ ที่เขียนโดยพ่อมดหรือแม่มดที่มายังที่แห่งนี้ ที่ซึ่งเด็กชายที่รอดชีวิตได้หนีไป บางคนได้เซ็นชื่อไว้ด้วย บางคนก็ได้ทิ้งข้อความไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นข้อความในลักษณะที่คล้ายๆกันคือ ขอให้แฮรี่โชคดีไม่ว่าแฮรี่จะอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าเธอได้อ่านนี่ แฮรี่ รู้ไว้ว่าพวกเราอยู่ข้างเธอ ขอให้แฮรี่อายุยืน หรืออะไรทำนองนั้น
"พวกเขาไม่ควรเขียนอะไรไว้อย่างนี้" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างขุ่นเคือง
แต่แฮรี่ก็ไม่ได้หันไปมองเธอ
"มันดูดี ชั้นดีใจที่พวกเขาทำ ชั้น.."
*****จากนี้ไปอย่างย่อค่ะ ละเอียดไม่ไหว *****
หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงเดินมาหาพวกเขา หล่อนเป็นแม่มดแน่นอน พวกเขาสงสัยว่าหล่อนจะเป็นบาทิลด้า พวกเขาถามว่าหล่อนคือบาทิลด้ามั้ย หล่อนไม่ตอบ หล่อนเปิดประตู และทำท่าทางให้พวกเขาตามหล่อนเข้าไป พวกเขาตามไปโดยคิดว่าหล่อนเป็นบาทิลด้า ภายในบ้านแฮรี่เห็นรูปถ่ายชายผมทอง เขาจึงพยายามถามหล่อนเกี่ยวกับชายผมทองคนที่ขโมยของ
ในร้าน แต่หล่อนไม่ตอบอะไร หล่อนทำท่าทางต้องการให้ขึ้นไปชั้นบน
เมื่อพวกเขาจะตามหล่อนขึ้นไปข้างบน หล่อนก็ไม่ยอมให้เฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไป หล่อนต้องการให้แฮรี่ขึ้นไปเพียงคนเดียว บาทิลด้านำแฮรี่ไปชั้นบน และที่นั่นในห้องแฮรี่ใช้ไม้กายสิทธิ์จุดไฟ และสอบถามหล่อนว่า ดัมเบิลดอร์ฝากอะไรไว้ให้เค้ามั้ย แต่หล่อนไม่สนใจ
หล่อนถามว่าเขาคือแฮรี่มั้ย แฮรี่บอกว่าใช่(สังเกตว่าก่อนหน้านี้หล่อนไม่พูดอะไรเลย ไม่ว่าพวกแฮรี่จะถามว่าหล่อนใช่บาทิลด้ามั้ย หรือ ใครคือขโมยคนนั้น) เมื่อหล่อนแน่ในว่าคือแฮรี่ หล่อนทำปากขมุบขมิบปากพึมพำ แฮรี่ได้ยินประมาณว่า รั้งตัวไว้ เขาถามซ้ำว่าดัมเบิลดอร์ฝากอะไรไว้ให้เค้ามั้ย หล่อนชี้ไปที่มุมห้องและบอกว่า There (นี่มาของชื่อบทที่ 17 นี้งัย) แค่ละลายตาชั่ววินาทีหล่อนก็กลายเป็นงูเข้ามาทำร้ายแฮรี่ เฮอร์ไมโอนี่เข้ามาจังหวะที่กำลังชุลมุนกันอยู่และพยายามช่วยเขา งูนากินีปล่อยเขา มีงูเต็มห้อง มีเสียงระเบิด พวกเขาต่อสู้ พวกเขารู้ว่าลอร์ดโวลเดอมอร์กำลังมา เฮอร์ไมโอนี่พาแฮรี่หายตัวออกมา แต่ตัวเขารู้สึกเหมือนเขาเป็นลอร์ดโวลเดอร์มอร์ที่รู้สึกคลั่งแค้นในนาทีสุดท้ายที่แฮรี่หนีไปได้
แฮรี่มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อพวกเขาอยู่ในเต้นท์ แฮรี่ฝันเกี่ยวกับเรื่องราววันที่พ่อกับแม่ของเขา
พยายามพาเขาหนี ช่วยเขา และร้องขอชีวิตของแฮรี่จากลอร์ดโวลเดอร์มอร์ และในที่สุดโดนลอร์ดโวลเดอมอร์ฆ่า เขาตื่นมา เฮอร์ไมโอนี่กำลังดูแลเขา บอกว่าพวกเขาหนีออกมาได้ชั่วโมงกว่าแล้ว ตอนนี้ใกล้รุ่งแล้วเฮอร์ไมโอนี่เล่าเกี่ยวกับที่แฮรีเป็นตอนเขาละเมอว่าเขาครางและออกเสียง
เหมือนเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์ และอีกทีที่ร้องไห้ทำตัวเหมือนเด็ก(เป็นช่วงที่เค้าฝันถึงพ่อกับแม่ถูกฆ่า)
เฮอร์ไมโอนี่บอกว่าหล่อนเอาฮอร์ครักมาจากตัวแฮรี่ไม่ได้ มันติดกับหน้าอกเค้า มันทำให้เค้ามีรอยตรงหน้าอก(ฮอร์ครักร้อนและมีปฏิกริยาเมื่อตอนเจอบาทิลด้า และเจองูในห้องนั้น) แฮร์รี่โดนงูฉกที่แขนด้วยแต่ไม่เป็นไรมาก แฮรี่ขอโทษที่เค้าพา
เฮอร์ไมโอนี่ไปที่นั่นและทำให้พวกเขาโดนทำร้าย เฮอร์ไมโอนี่บอกว่าเป็นเพราะหล่อนอยากไป หล่อนถามแฮรี่ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากที่พวกเขาขึ้นไปข้างบนหล่อนให้งูซ่อนอยู่หรือ แฮรี่บอกว่าไม่ใช่ จริงๆ แล้วงูคือหล่อน
หล่อนคืองู เฮอร์ไมโอนี่ตกใจ อะไรนะ แฮรี่บอกว่าบาทิลด้าจะต้องตายแล้วแน่ๆ แล้วลอร์ดโวลเดอร์มอร์ก็ทิ้งงูไว้ในตัวหล่อน เพื่อรอแฮรี่ ซึ่งลอร์ดโวลเดอร์มอร์รู้แน่ว่าแฮรี่จะต้องกลับมาที่นี่เฮอร์ไมโอนี่ตกใจที่มีเวทมนต์อย่างนั้นด้วย แฮรี่บอกว่าก็อย่างที่ลูปินบอกว่าเวทมนต์ทำได้ในสิ่งที่เรานึกไม่ถึง บาทิลด้าไม่ต้องการพูดอะไรเมื่อพวกเราซักถามหล่อนทีแรก หล่อนแค่พยักหน้าหรือผงกหัวหรือส่ายหัว ก็เพราะมันเป็นพาเซลเม้า ซึ่งถ้าพูดแฮรี่ก็ต้องรู้ว่าเป็น Parseltongue, ตอนนั้นแฮรี่บอกว่าเขาไม่ได้นึกถึง แต่เขาเข้าใจที่หล่อนพูด เมื่อขึ้นไปข้างบน หล่อนส่งข่าวไปยังคนที่ก็รู้ว่าใครว่าแฮรี่อยู่ที่นั่น คนที่คุณรู้ว่าใครบอกให้รั้งตัวเขาไว้ที่นั่นและลอร์ดโวลเดอร์มอร์กำลังมา เขาบอกเฮอร์ไมโอนี่ว่างูออกมาจากส่วนที่เคยเป็นคอของบาทิลด้า ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่บอกว่าเธอไม่ต้องการรู้รายะเอียดขนาดนั้น แฮรี่เลยเล่าแค่บาทิลด้าเปลี่ยนเป็นงูและโจมตีเขา
แน่นอนว่าไม่ได้ต้องการจะฆ่าเขา แค่รั้งตัวเขาไว้จนคนที่คุณรู้ว่าใครมาถึง เฮอร์ไมโอนี่บอกให้แฮรี่หยุดเล่าและพักผ่อน แฮรี่ถามถึงไม้กายสิทธิ์ของเขา(ซึ่งเขาจำได้ว่ามันหล่นตอนเขากำลังสู้กับงู)เฮอร์ไมโอนี่ดึง
ไม้กายสิทธิ์จากใต้เตียงส่งให้แฮรี่ มันดูเหมือนเกือบจะแยกเป็นสองเสี่ยง (โดนแฮรี่เหยียบตอนสู้กับงู)เฮอร์ไมโอนี่ขอโทษที่มันหัก แฮรี่ขอให้หล่อนซ่อมให้เขา เขาทดลองใช้และพบว่าไม้กายสิทธิมีบางสิ่งผิดปกติ ไม่ทำงานอย่างที่เขาสั่ง
เฮอร์ไมโอนี่ขอโทษ เธอบอกว่าเป็นเพราะเธอใช้คาถา Blasting Curse(ทำให้ระเบิด) ในตอนชุลมุน ทำให้มีการสะท้อนของคาถาทุกทิศทางแฮรี่บอกไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ และคงหาทางซ่อมได้ เฮอร์ไมโอนี่ร้องให้และขอโทษ และเล่าถึงคราวที่รอนทำไม้กายสิทธิหัก มันซ่อมไม่ได้ และรอนก็ต้องซื้ออันใหม่
แฮรี่นึกถีงโอลิเวนเดอร์ที่ถูกลอร์ดโวลเดอร์มอร์จับตัวไป และนึกท้อใจว่าเค้าจะหาไม้กายสิทธิ์ให้ตัวเองด้วยตัวเองได้อย่างไรเขาเอ่ยปากขอยืมไม้กายสิทธิ
ของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ส่งให้ด้วยน้ำตานองหน้า(เพราะเสียใจที่ทำให้ไม้แฮรี่พัง ไม่ใช่เพราะเสียดายไม้ มีแซว) เขาปล่อยให้เธอนั่งเงียบๆบนเตียงเขา ตัวเขาคิดเพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรถึงไปจากเฮอร์ไมโอนี่ตรงนี้ได้(desiring nothing more than to get away from her)
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:30 2 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 17 There
16 - Godric's Hollow
รอนจากไปแล้ว แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ยังคงเดินทางต่อไปด้วยกัน แฮร์รี่พยายามไม่พูดถึงรอนเพื่อไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่คิดมาก แต่เขารู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ยังคงเศร้าซึมอยู่ แฮร์รี่ครุ่นคิดว่าดาบจะไปอยู่ที่ไหน และคิดถึงดัมเบิลดอร์ นึกโกรธที่เขาไม่เคยถามอะไรดัมเบิลดอร์เลย ความคิดย้อนกลับไปที่ Godric's Hollow และเขาปรึกษาเฮอร์ไมโอนี่ว่าเขาอยากกลับไปที่นั่น ใจจริงคือเขาอยากกลับไปยังหลุมศพของพ่อแม่ คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วย และยกเรื่องดาบมาพูดว่า ก๊อกดริก กริฟฟินดอร์เองก็เกิดที่นี่ และยกหนังสือ History of Magic เขียนโดย Bathilda Bagshot ขึ้นมายืนยัน และบอกว่าพ่อแม่หลายคนเคยอาศัยอยู่ที่นี่ แฮร์รี่เชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกันกับ Godric's Hollow ทั้งดาบของก๊อกดริก กริฟฟินดอร์ ครอบครัวของเขา Bathilda Bagshot ที่อาศัยอยู่ที่นั้น และครอบครัวของดัมเบิลดอร์
พวกเขาฝึกหายตัวใต้ผ้าคลุมล่องหน และปลอมตัวเป็นมักเกิ้ลไปยัง Godric's Hollow เวลานั้นเป็นช่วงคริสตมาสพอดี ซึ่งทำให้แฮร์รี่คิดถึงตัวเอง ว่าถ้าไม่มีโวลดี้ เขาชีวิตที่เป็นสุข ... ที่ Godric's Hollow มีอนุสรณ์สถานสงครามอยู่ พอแฮร์รี่เดินผ่าน มันก็เปลี่ยนเป็นรูปปั้นคนสามคน คือพ่อแม่ และตัวเขา ... พวกเขาเดินเข้าไปในส่วนที่ฝังศพ และพบป้ายหลุมศพของคนที่นามสกุลคุ้นเคยมาก ๆ เช่น Abbott .. หลุมศพของแม่และน้องสาวดัมเบิลดอร์มีคำจารึกว่า "Where your treasure is, there will be your heart also." และหลุมศพของเจมส์กับลิลลี่ จารึกไว้ว่า "The last enemy that shall be destroyed to death." ซึ่งแฮร์รี่ก็ยังไม่แน่ใจว่าคำจารึกพวกนี้หมายถึงอะไร และเขานึกโกรธที่ไม่ได้ติดดอกไม้หรือเอาอะไรมาเคารพหลุมศพพ่อแม่ตัวเองเลย เฮอร์ไมโอนี่เสกพวงหรีดคริสตมาสดอกกุหลาบออกมาให้แฮร์รี่ วางบนหลุมศพ .. ทั้งสองเดินออกจากตรงนั้นเงียบ ๆ แฮร์รี่โอบไหล่เฮอร์ไมโอนี่ และเธอก็โอบเอวเขา และเดินจากไป
Note : - ช่วงที่กำลังคิด ๆ กันอยู่ เฮอร์ไมโอนี่อ่านหนังสือนิทานที่ดัมเบิลดอร์ให้ไว้ และพบสัญลักษณ์ของ Grindelvald ในหนังสือ
- Grindelvald คือพ่อมดชั่วร้ายที่เคยประลองกับดัมเบิลดอร์ คนเดียวกับที่ครัมสังเกตเห็นพ่อของลูน่าห้อยสัญลักษณ์นี้
เขียนโดย บริษํท อาร์.วี.เค. ซัพพลาย จำกัด ที่ 00:25 1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: 16 - Godric's Hollow